![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1980.jpg)
หลังจากจบการศึกษาทางด้านการแต่งหน้าละครเวทีจาก Emerson College บ็อบบี้ก็มุ่งหน้าสู่มหานครนิวยอร์คเพื่อตามหาความฝันในฐานะเมคอัพอาร์ทติสมืออาชีพ
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1981.jpg)
บ็อบบี้เริ่มแต่งหน้าให้กับนิตยสารชั้นนำอย่าง Glamour Magazine
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1987.jpg)
บ็อบบี้ร่วมงานครั้งแรกกับนิตยสาร Vogue และช่างภาพชื่อดังอย่าง Patrick Demarchelier และนางแบบระดับโลกอย่าง Naomi Campbell
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1990.jpg)
บ็อบบี้ร่วมงานกับนักเคมี และวางจำหน่ายลิปสติก 10 เฉดสีแรก
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1991.jpg)
ภายใต้แบรนด์ Bobbi Brown Essentials บ็อบบี้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเธอในห้างสรรพสินค้า Bergdorf Goodman ในมหานครนิวยอร์ค และสามารถจำหน่ายลิปสติก 100 แท่งแรกหมดภายในวันเดียว จากที่คาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 1 เดือน
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1992.jpg)
บ็อบบี้ปฏิวัติวงการด้วยการออกรองพื้น Foundation Stick ที่มีพื้นฐานเป็นโทนสีเหลือง
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1995.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อเตรียมผิวก่อนการแต่งหน้า และได้ขายกิจการให้กับอาณาจักรเครื่องสำอางอย่างบริษัท Estee Lauder
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1996.jpg)
บ็อบบี้เปิดตัวเวปไซต์ bobbibrowncosmetics.com
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1997.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มแรก "Bobbi Brown Beauty" ซึ่งสามารถขายได้กว่า 100,000 เล่ม และขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีของ New York Times
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2000.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่สอง "Bobbi Bown Teenage Beauty" และได้ขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีของ New York Times อีกครั้ง
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2001.jpg)
บ็อบบี้เฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีเครื่องสำอาง Bobbi brown ด้วยการเปิดตัวโครงการ Dress for Success ซึ่งมีอายุโครงการถึง 1 ปี
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2002.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่สาม "Bobbi Brown Beaury Evolustion" ซึ่งถือเป็นครั้งที่สามที่หนังสือของเธอขึ้นแท่นหนังสือขายดีของ New York Times
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2003.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่าย Shimmer Brick หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นประดุจลายเซ็นของเธอ และทุกวันนี้ในทุกๆ 1 นาที Shimmer Brick จะถูกจำหน่ายออก 1 ชิ้น ณ จุดใดจุดหนึ่งบนโลก!
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2007.jpg)
บ็อบบี้เปิดตัวสตูดิโอในมองแคลร์ ณ มลรัฐนิวเจอร์ซี่ ซึ่งถือเป็น Free Standing Store แห่งแรกของแบรนด์ ภายในมีทั้งห้องสำหรับการเทรน และมีสตูดิโอสำหรับการถ่ายภาพ และในปีเดียวกันนั้นเอง บ็อบบี้ยังได้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่สี่ "Bobbi Brown Living Beauty" ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่หนังสือของเธอขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีของ New York Times
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2008.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่ห้า "Bobbi Brown Makeup Manual" ซึ่งขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีแทบจะในทันทีที่เปิดตัว
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2009.jpg)
บ็อบบี้ได้เข้าพบประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า และรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน นอกจากนี้เธอยังได้แต่งหน้าให้กับ ด.ร.จิล ไบเดนอีกด้วย
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2010.jpg)
เปิดตัว Pretty Powerful ซึ่งเป็นแคมเปญที่นำผู้หญิงหลากหลายสาขาอาชีพมาถ่ายรูป "ก่อนและหลังแต่งหน้า" และบ็อบบี้ยังได้รับเลือกจากประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ Advisory Committee for Trade Policy and Negotiations (ACTPN) นอกจากนี้ ในปีเดียวกันนั้นเอง บ็อบบี้ยังได้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่หก "Beauty Rules" เพื่อสอนให้วัยรุ่นสตรีได้เรียนรู้การแต่งหน้าตัวเอง เพื่อเสริมความมั่นใจอย่างสมช่วงวัย
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2011.jpg)
Bobbi Brown ขึ้นแท่นเครื่องสำอางอันดับ 1
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2012.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่เจ็ด "Pretty Powerful" และเครื่องสำอาง Bobbi Brown ยังได้ร่วมงานกับสถาบัน Broome Street Academy ในนิวยอร์คอีกด้วย
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2013.jpg)
เครื่องสำอาง Bobbi Brown เปิดตัวกิจกรรมการกุศล Pretty Powerful Campaign เพือเด็กและสตรี
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2014.jpg)
ด้วยการจับมือกับ Safilo บ็อบบี้วางจำหน่ายแว่นตา Bobbi Brown Eyewear ซึ่งมีทั้งแว่นกันแดดและแว่นสายตา นอกจากนี้ยังลงมือเขียนหนังสือเล่มที่ 8 "Everything Eyes" และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบรรณาธิการความงามของ Yahoo Beauty อีกด้วย
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1980.jpg)
หลังจากจบการศึกษาทางด้านการแต่งหน้าละครเวทีจาก Emerson College บ็อบบี้ก็มุ่งหน้าสู่มหานครนิวยอร์คเพื่อตามหาความฝันในฐานะเมคอัพอาร์ทติสมืออาชีพ
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1981.jpg)
บ็อบบี้เริ่มแต่งหน้าให้กับนิตยสารชั้นนำอย่าง Glamour Magazine
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1987.jpg)
บ็อบบี้ร่วมงานครั้งแรกกับนิตยสาร Vogue และช่างภาพชื่อดังอย่าง Patrick Demarchelier และนางแบบระดับโลกอย่าง Naomi Campbell
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1990.jpg)
บ็อบบี้ร่วมงานกับนักเคมี และวางจำหน่ายลิปสติก 10 เฉดสีแรก
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1991.jpg)
ภายใต้แบรนด์ Bobbi Brown Essentials บ็อบบี้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเธอในห้างสรรพสินค้า Bergdorf Goodman ในมหานครนิวยอร์ค และสามารถจำหน่ายลิปสติก 100 แท่งแรกหมดภายในวันเดียว จากที่คาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 1 เดือน
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1992.jpg)
บ็อบบี้ปฏิวัติวงการด้วยการออกรองพื้น Foundation Stick ที่มีพื้นฐานเป็นโทนสีเหลือง
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1995.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อเตรียมผิวก่อนการแต่งหน้า และได้ขายกิจการให้กับอาณาจักรเครื่องสำอางอย่างบริษัท Estee Lauder
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1996.jpg)
บ็อบบี้เปิดตัวเวปไซต์ bobbibrowncosmetics.com
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_1997.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มแรก "Bobbi Brown Beauty" ซึ่งสามารถขายได้กว่า 100,000 เล่ม และขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีของ New York Times
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2000.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่สอง "Bobbi Bown Teenage Beauty" และได้ขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีของ New York Times อีกครั้ง
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2001.jpg)
บ็อบบี้เฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีเครื่องสำอาง Bobbi brown ด้วยการเปิดตัวโครงการ Dress for Success ซึ่งมีอายุโครงการถึง 1 ปี
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2002.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่สาม "Bobbi Brown Beaury Evolustion" ซึ่งถือเป็นครั้งที่สามที่หนังสือของเธอขึ้นแท่นหนังสือขายดีของ New York Times
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2003.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่าย Shimmer Brick หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นประดุจลายเซ็นของเธอ และทุกวันนี้ในทุกๆ 1 นาที Shimmer Brick จะถูกจำหน่ายออก 1 ชิ้น ณ จุดใดจุดหนึ่งบนโลก!
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2007.jpg)
บ็อบบี้เปิดตัวสตูดิโอในมองแคลร์ ณ มลรัฐนิวเจอร์ซี่ ซึ่งถือเป็น Free Standing Store แห่งแรกของแบรนด์ ภายในมีทั้งห้องสำหรับการเทรน และมีสตูดิโอสำหรับการถ่ายภาพ และในปีเดียวกันนั้นเอง บ็อบบี้ยังได้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่สี่ "Bobbi Brown Living Beauty" ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่หนังสือของเธอขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีของ New York Times
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2008.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่ห้า "Bobbi Brown Makeup Manual" ซึ่งขึ้นทำเนียบหนังสือขายดีแทบจะในทันทีที่เปิดตัว
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2009.jpg)
บ็อบบี้ได้เข้าพบประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า และรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน นอกจากนี้เธอยังได้แต่งหน้าให้กับ ด.ร.จิล ไบเดนอีกด้วย
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2010.jpg)
เปิดตัว Pretty Powerful ซึ่งเป็นแคมเปญที่นำผู้หญิงหลากหลายสาขาอาชีพมาถ่ายรูป "ก่อนและหลังแต่งหน้า" และบ็อบบี้ยังได้รับเลือกจากประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ Advisory Committee for Trade Policy and Negotiations (ACTPN) นอกจากนี้ ในปีเดียวกันนั้นเอง บ็อบบี้ยังได้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่หก "Beauty Rules" เพื่อสอนให้วัยรุ่นสตรีได้เรียนรู้การแต่งหน้าตัวเอง เพื่อเสริมความมั่นใจอย่างสมช่วงวัย
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2011.jpg)
Bobbi Brown ขึ้นแท่นเครื่องสำอางอันดับ 1
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2012.jpg)
บ็อบบี้วางจำหน่ายหนังสือเล่มที่เจ็ด "Pretty Powerful" และเครื่องสำอาง Bobbi Brown ยังได้ร่วมงานกับสถาบัน Broome Street Academy ในนิวยอร์คอีกด้วย
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2013.jpg)
เครื่องสำอาง Bobbi Brown เปิดตัวกิจกรรมการกุศล Pretty Powerful Campaign เพือเด็กและสตรี
![](/media/export/cms/bobbi_history/BB_BigMoment_2014.jpg)
ด้วยการจับมือกับ Safilo บ็อบบี้วางจำหน่ายแว่นตา Bobbi Brown Eyewear ซึ่งมีทั้งแว่นกันแดดและแว่นสายตา นอกจากนี้ยังลงมือเขียนหนังสือเล่มที่ 8 "Everything Eyes" และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบรรณาธิการความงามของ Yahoo Beauty อีกด้วย